โรคไขมันสะสมในตับคืออะไร

ปัญหาโรคไขมันสะสมในตับ หรือ Non-alcoholic fatty liver disease (NAFLD) จัดเป็นโรคที่พบได้บ่อยในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย และมีความสัมพันธ์กับความชุกของโรคอ้วน แพทย์จะวินิจฉัยได้โดยการตรวจพบว่าผู้ป่วยมีค่าการทำงานผิดปกติ มีภาพทางรังสีวินิจฉัยยืนยันผล ส่วนมากมักใช้วิธีตรวจอัลตราซาวนด์ที่พบว่าเนื้อตับมีสีขาวมากขึ้นเมื่อเทียบกับเนื้อไต (increased echogenicity)นอกจากนี้จำเป็นต้องตรวจแยกสาเหตุอื่นๆ ได้แก่ สาเหตุจากการดื่มแอลกอฮอล์ที่เกินขนาด สาเหตุจากยา โรคภูมิคุ้มกันของตัวเองต่อตับและสาเหตุจากไวรัสตับอักเสบ ในผู้ป่วยบางรายแพทย์อาจจำเป็นต้องใช้ผลการตรวจชิ้นเนื้อตับโดยการเจาะตับเพื่อวินิจฉัย โดยพบว่ามีไขมันอย่างน้อย 5 เปอร์เซ็นต์ของเซลล์ตับ โดยการเจาะตับถือเป็นหลักมาตรฐานการวินิจฉัยโรคเพราะสามารถประเมินความรุนแรงของโรคได้ แต่ผู้ป่วยมักกลัวผลข้างเคียงและอันตรายของการเจาะตับโดยทั่วไปแพทย์จะแบ่งผู้ป่วยเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ป่วยที่มีแต่ไขมันสะสมในตับโดยไม่พบการอักเสบในเนื้อตับ (เรียกว่า fatty liver หรือ steatosis) และกลุ่มที่มีทั้งไขมันสะสมและพบการอักเสบในเนื้อตับด้วย หรือ Non-alcoholicsteatohepatitis(NASH) ที่มักมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นภาวะตับแข็งได้

ที่มา : หนังสือ ไขรหัสตับอักเสบเรื้อรังและตับแข็ง


← กลับไปหน้ารายการ